Me Myself and My way

Posts tagged ‘android’

Galaxy S3 จากมุมมองของคน Anti Samsung

GALAXY-SIII-4

Samsung เปิดตัว Galaxy S3 ไปเมื่อต้น พ.ค. ที่ผ่านมา และเพิ่งวางขายจริงในประเทศไทยเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานี้เอง โดยกระแสตอบรับนั้นเรียกได้ว่า “ล้นหลาม” ซึ่งก็น่าจะเป็นผลมาจากความสำเร็จที่น่าประทับของ Galaxy S2 “เรือธง” (flag ship) ของ Samsung เมื่อปีที่แล้วนั่นเอง

โดยส่วนตัวนั้นผมไม่ได้ให้ความสนใจ Galaxy S3 มากนักในตอนแรก เพราะอย่างที่จั่วหัวไว้แล้วว่าปกติแล้วผมนั้นจัดอยู่ในกลุ่ม Anti Samsung ได้เลยทีเดียว

ก่อนหน้านี้เมื่อมีคนถามผมว่า จะซื้อมือถือยี่ห้อไหนดี จะซื้อจอยี่ห้อไหนดี หรือ จะซื้อโน้ตบุคยี่ห้อไหนดี ชื่อแบรนด์ Samsung นั้นไม่เคยหลุดออกมากลายเป็นคำแนะนำจากผมเลย ทั้งนี้เพราะเหตุผลที่หลายๆคนก็คงทราบกันดีว่า ไม่ใช่ของ Samsung นั้น "ประสิทธิภาพ” ไม่ดี แต่มันเป็นเพราะ “คุณภาพ” ของวัสดุ ตัวสินค้า รวมไปถึงบริการ ซึ่งทำให้เกิดความไม่มั่นใจต่อแบรนด์ว่า Samsung ไม่ทน เจ๊งง่าย และ ศูนย์บริการห่วย

Galaxy S3 ไม่ใช่ gadget ตัวแรกที่ Samsung ได้เงินจากผม เมื่อปีที่แล้วผมเคยเสียเงินให้ Galaxy Tab 10.1 มาแล้ว ในครั้งนั้น Tab 10.1 (ขอเรียกสั้นๆ) เป็นเพียงตัวเลือก “อันดับสาม” ด้วยเหตุผลของการไม่เชื่อใจ Samsung ดังข้างต้น

sony-s1-and-s2-2011-04-26_00-57-40-rm-timn

สาเหตุที่ผมได้เป็นลูกค้า Samsung ในครั้งนั้น เกิดจากเป้าหมายอันดับ 1 อย่าง Lenovo Thinkpad Tablet นั้นมีราคา(และน้ำหนัก) ที่สูงเกินไป ส่วนอันดับที่อย่าง 2 Sony Tablet S1 นั้นก็ยังไม่สามารถสลัดคราบความ “อุ้ยอ้าย” ในการวางขายผลิตภัณฑ์ของ Sony ประเทศไทย ได้ (Tablet S นั้นเปิดตัวก่อน Tab 10.1 อยู่หลายเดือน แต่วางขายในประเทศไทยหลัง Tab 10.1 อีกหลายเดือนเช่นกัน)

ด้วยความ “อยากได้” tablet สักตัวมาใช้งานมากๆในตอนนั้น และสเปคที่ไม่ต่างกันนัก (Tab 10.1 และ Tablet S นั้นใช้ CPU Tegra2 ทั้งคู่) ทำให้ผมตัดสินใจไม่รอ Tablet S1 จาก Sony และยอมเสียเงินให้ gadget จาก Samsung เป็นครั้งแรก

การตัดสินใจในครั้งนั้นไม่อาจเรียกได้ว่าถูก เพราะหลังจาก Tablet S1 วางขายในประเทศไทย(ซะที) และผมได้ลองเล่นมัน (เครื่องเพื่อน) ผมพบว่า Sony นั้น custom rom ของตัวเองมาได้ดีกว่า Samsung เยอะ รวมไปถึงสีสันและความคมชัดของหน้าจอก็เหนือกว่า และในตอนนี้ S1 นั้นได้ Official ICS ไปเป็นเดือนแล้วในขณะที่ Tab 10.1 นั้นยังคงต้อง “รอต่อไป” อยู่เลย ดังนั้นความห่วยด้าน บริการ ของ Samsung นั้นยังคง ”เหมือนเดิม” อยู่

Why Galaxy S3?

Download_01_Nexus_OneGalaxy S3 เป็น Android ตัวที่ 2 ของผม (ที่เป็นของตัวเอง) ต่อจาก Nexus One แต่ด้วยความที่คนรอบตัวผมใช้ Android กันค่อนข้างเยอะ จึงได้มีโอกาสลองเล่นรุ่นสูงๆแทบจะทุกรุ่นในช่วงเวลาที่ผ่านมา และเมื่อมีคนถามผมว่า เมื่อไรจะเปลี่ยนมือถือใหม่ (ภาพลักษณ์ของ Nexus One นั้นดูแก่ไปถนัดตา หลังยุค iPhone 4/ Galaxy S2) คำตอบของผมก็คือ มันยังไม่มีอะไรที่ Nexus One ทำไม่ได้ แล้วทำไมถึงจะต้องเปลี่ยน?

การไม่ได้รับ Official ICS จาก Google นั้นไม่ได้มีผลกระทบเท่าการพยายามทำ Miui.us เวอร์ชัน ICS มาเข็นลงแล้วพบว่ามัน “โคตรช้าเลย” ซึ่งส่งผลอย่างมากต่อความคาดหวัง CM9 บน Nexus One ว่ามันจะใช้งานได้ลื่น (และไม่รู้เมื่อไรมันจะสมบูรณ์) นับตั้งแต่นั้นมาผมก็เริ่มมีกิเลสต่อมือถือตัวใหม่มากขึ้นเรื่อยๆ แต่ยังไม่มีตัวไหนโดนใจ และสร้างกิเลสได้มากพอ จนกระทั่งผมได้มาจับ Galaxy S3 นี่เอง

Galaxy S3 ยังคงคอนเซปท์ “พลาสติก” ของ Samsung ไว้ได้เป๊ะ แต่เปลี่ยนจากความ “เหลี่ยม” ของ S2 มาเป็นความโค้งมนแบบ Galaxy Nexus ดังนั้น Bias ด้านวัสดุของผมยังคงอยู่ครบทุกประการ กับฝาหลังที่เงาวับ แบบที่ถ้าไม่ใส่เคสยังไงก็เป็นรอย จึงทำให้จุดนี้เป็นจุดบอดใหญ่ที่สุด ในมือถือที่เรียกได้ว่า “ดีที่สุด” ในตลาดขณะนี้ (ซึ่งหลังจาก iPhone 5 ออกก็มีโอกาสสูงที่จะเสียตำแหน่งไป)

ข้อดีของ Galaxy S3 คืออะไร?

  • เร็ว ฮิป หาย – S3 ใช้ชิป Exynos 4 Quad กับ แรม 1 GB ซึ่งประสิทธิภาพทั้งในด้านตัวเลข (ผล Benchmark) ซึ่งจากการทดลองจับเทียบกับ HTC One X ซึ่งเป็น Tegra 3 แล้วพบว่า S3 ลื่นกว่าเยอะเลย และนั่นทำให้ผมสามารถตัด Choice ที่จะรอมือถือรุ่นต่อๆไปได้เยอะเลย เพราะส่วนใหญ่จะใช้ Tegra 3 ทั้งนั้น

    อย่างไรก็ตาม ผล benchmark และการทดลองจับตัวเครื่องก่อนซื้อมาใช้งานจริง ก็ไม่ใช่สิ่งที่น่าเชื่อถือเสมอไป เพราะหลังจากเป็นเจ้าของมันมาได้ 2 วัน ก็ยังเจอบางสถานการณ์ที่ออกจากแอพมาสู่ Home Screen แล้วต้องรออยู่บ้าง แต่ค่อนข้างคิดว่าเปฺ็นปัญหาของ Touchwiz เองซะมากกว่า เพราะนอกจากนั้น 99% ความเร็วฮิปหาย นั้นก็ยังคงเป็นจริง

  • บาง เบา – S3 มีน้ำหนัก 133g ซึ่งหนักกว่า S2 อยู่ถึงเกือบ 20g แต่คนรู้จักซึ่งเป็นเจ้าของ S2 กลับบอกว่าจับ S3 แล้วรู้สึกเบากว่า ที่น่าแปลกใจคือไม่ใช่เพียงคนเดียว แต่เป็น 2 คนพูดตรงกัน ดังนั้นจึงน่าจะเป็นผลจากการ design มากกว่าอุปาทาน ส่วนตัวผมก็รู้สึกว่าเบา แต่ไม่ได้อะไรนักเพราะ Nexus One เองก็หนักเพียง 130g (แต่ Nexus One จอเล็กกว่าถึง 1.3”)

    ความบางของ S3 ทำให้ใส่กระเป๋ากางเกงยีนส์ได้สบาย แต่ความกว้างของมันอาจจะทำให้รู้สึกเกะกะบาง ประกอบกับความลื่นของวัสดุ ทำให้เวลายกขาสูงๆแล้วเสียวจะร่วงเหมือนกัน

  • Smart Stay – Samsung ยัดฟีเจอร์เท่ๆมากมายมาให้กับ S3 ทั้งในเครื่อง Motios3-smart-stayn Control, Smart Alert, S Voice 9ล9 แต่พวกนั้นมันไม่ค่อยมีประโยชน์สำหรับผมนัก แต่ Smart Stay นั้นมีประโยชน์มากๆ ถ้าคุณชอบอ่านเวบ บทความ หนังสือ ยาวๆบนโทรศัพท์คงจะเคยพบกับความรำคาญที่หน้าจอมันดับไปเองตาม Timeout แล้วต้องมากดเปิดหน้าจอ พร้อม unlock ใหม่เพื่ออ่านต่อตลอดเวลา การที๋โทรศัพท์รู้ว่าเรา”มอง” มันอยู่และไม่ดับไปนั้นให้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นมาก

    อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์นี้ใช้การไม่ได้เลยแทบจะ 100% ในพื้นที่ที่แสงน้อยเช่นบนรถตู้ หรือแท็กซี่ตอนกลางคืน

  • จอใหญ่ ดี? – เรื่องจอนั้นเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล ผมเองคิดว่ามันใหญ่ไปหน่อย แต่บางคนก็บอกว่า จอใหญ่ดีจัง ดังนั้น ไปลองจับตัวจริงแล้วตัดสินใจเองจะดีที่สุดครับ

    หน้าจอ 4.8” นั้นยังพอทำให้การใช้งานมือเดียวเป็นไปได้อยู่บ้าง (ดีกว่า Note) แต่ถ้าคุณเป็นคนมือไม่ใหญ่ก็อย่าดีกว่า เพราะมันบอบบางมาก ถ้าตกไปเดี๋ยวจะเป็นเรื่อง (Drop test S3 vs 4S)

  • กล้อง – S3 นั้นมีกล้องที่ดี แต่ผมว่ามันไม่ได้ดีมากเหมือนที่อ่านจากหลายๆรีวิวในเวบ อาจจะดีกว่า S2 ตรงความเร็วชัตเตอร์ (S3 ใช้ zero shutter lag ฟีเจอร์ของ ICS) ซึ่งเราต้องรอ Auto Focus เสร็จแล้วค่อยถ่าย ไม่ใช่ถ่ายแล้วค่อยรอมัน Auto Focus

    540540_474851692531559_657752232_n 598771_474851359198259_552975148_n

    การถ่ายรูปที่ 8 MP นั้นมี Noise อยู่พอสมควร ในขณะที่การถ่ายที่แสงน้อยก็ไม่ได้รู้สึกแตกต่างกับมือถือตัวท็อปอื่นๆมากนัก ดังนั้นผมคิดว่ากล้องมันก็ “งั้นๆแหละ”

  • เสียง – ถ้าถามว่าผมประทับใจส่วนไหนที่สุด ผมคงบอกว่าเป็นเรื่อง “เสียง” นี่แหละ เรียกว่าเป็น Android ตัวแรกที่ผมรู้สึกว่าเสียงมันดีกว่า iPod Touch 2nd Gen ที่ใช้อยู่ อย่างไรก็ตาม เสียงนั้นเป็นเรื่องของรสนิยมและความรู้สึกล้วนๆ ผมชอบ คนอื่นอาจจะไม่ชอบก็เป็นได้ ดังนั้นไปลองฟังเองก็จะดีที่สุดเช่นกันครับ (แต่เสียงดีกว่า S2 แน่ๆ ฟันธง)
  • แบตเตอรี่ – เป็นอีกหนึ่ง killer feature ของ S3 เลยทีเดียวที่อัดแบตมาให้ถึง 2100 mAh ซึ่งสูงกว่าคู่แข่งทุกเจ้าในตลาด ส่งผลอย่างชัดเจนต่อการใช้งาน “วันต่อวัน” ของ smart phone จอใหญ่ระดับนี้

    สำหรับการทดสอบมาสองวัน พบกว่า 2100 mAh แต่ถ้าเล่นหนักๆ เปิด 3g ตลอดเวลา ก็คงอยู่ได้ 1 วันแบบพอดีๆเท่านั้น ไม่ได้เหลือกินเหลือใช้แต่ประการใด ..

ข้อเสียล่ะ?

  • วัสดุ – บอบบาง เป็นรอยง่าย ผิวเป็นมัน เรียกว่าถ้าไม่อยากให้เป็นรอยก็ต้องใส่เคส “ดีๆ” สถานเดียว ไม่มีทางที่มันจะไม่เป็นรอยภายใต้การใช้งานปกติประจำวัน
  • ไม่มีทางเลือกสำหรับคนไม่ชอบมือถือสีขาว – เชื่อว่าหลายๆคนเมื่อได้เห็น S3 สี Pebble Blue แล้วคงคิดว่า มัน สวย มาก เหมือนๆกับผม แต่สีน้ำเงินเจ้ากรรมนี้ดันประสบปัญหาการผลิตจนต้องเลื่อนการวางขายไปแบบไม่มีกำหนด.. ดังนั้นถ้าทนกิเลสตัวเองไม่ไหว (เช่นผม) ตอนนี้คุณไม่มีทางเลือกอื่นครับ
  • USB ไดร์เวอร์ – ยังคงต้องลงพร้อมกับ Kies เท่านั้นสำหรับ Windows XP แต่กับ 7 ไม่มีปัญหา เสียบแล้วทำงานผ่าน MTP ได้เลย ยังคงไม่ support การ mount แบบ USB Mass Storage เช่นเดิม (น่าหงุดหงิดเล็กน้อยสำหรับคนที่ใช้ Nexus One มาก่อน)
  • Video Player – ตัวเครื่องชูโรงการเล่นไฟล์วีดีโอแบบ Full HD 1080p อย่างลื่นไหล แต่ตัว Video Player ที่ให้มากับเครื่องดันไม่ support ไฟล์นามสกุล .TS หรือ .TP ซึ่งเป็นมาตรฐานของ Full HD Video ซะแบบนั้น..
    Screenshot_2012-06-09-18-37-29
    อย่างไรก็ตาม การเล่นไฟล์ AVI 1080p ก็ทำได้อย่างลื่นไหลไร้ที่ติ สมราคาคุย
  • ไม่ติดนิ้ว – เป็นข้อด้อยหลักสำหรับผู้ที่ชอบในความลื่น นุ่มนวล ติดนิ้วของ iOS ครับ ถึงแม้ S3 จะใช้ชิปประมวลผลและกราฟิกที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุด(ในฝั่ง android – อาจจะไม่ได้ดีกว่าชิป A5 ของ new iPad) แต่เรื่องความติดนิ้วในการเลื่อนหน้าจอก็ยังคงสู้ iOS ไม่ได้อยู่ดี

    อย่างไรก็ตาม S3 ก็ทำได้ดีที่สุดในฟาก Android แล้วครับ ผมลองไปลากๆเล่น HTC One X ก็พบว่าแย่กว่าอย่างชัดเจน

Full Review

สำหรับการรีวิวอย่างละเอียด ผมขอแนะนำให้ไปอ่านจาก MobileDista ซึ่งผมว่าเป็นเว็บของไทยเขียนได้ดีและละเอียดที่สุดแล้ว แต่ถ้าอยากอ่านของนอกผมแนะนำของ TechRadar ครับ (เขียนเองไม่ไหว และคงเขียนไม่ได้ดีเท่าสองเว็บนี้..)

ขอบคุณที่อ่านกันมาถึงตรงนี้ครับ ถ้ามีโอกาสคงได้พบกันใหม่ ยิ้ม

* edit – เพิ่มข้อเสียอีกข้อครับ ตกหล่นไปในตอนแรก