Me Myself and My way

Archive for the ‘Life’ Category

PS4 Review

ps4

เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ทำอะไร “ซูเนโอะ” ขนาดนี้ … (หลังจากเป็นโนบิตะมาเกือบตลอดชีวิต ฮา)

คำว่า ซูเนโอะ มาจากพฤติกรรมแบบ ซื้อของใหม่ที่ออกวันแรก ในช่วงที่ชาวบ้านคนปกติธรรมดา เขายังไม่ซื้อกัน เพราะเหตุผลต่างๆนานา แต่คนจำพวกซูเนโอะจะไม่สนใจ ไม่รอ จัดแม่มเลยยย

เข้าเรื่องดีกว่า ผมได้เครื่องมาในราคา 17,200 บาทถ้วนจากร้าน Nadz ในวันแรกที่ของขาย”อย่างเป็นทางการ”ในไทย คือวันที่ 19 ธค ที่ผ่านมา

PS4 นั้นถือเป็นปรากฎการณ์อย่างหนึ่งของวงการทีเดียว อย่างที่รู้ๆกันว่าตลาด Hardcore Gamer นั้นเล็กน้อย ร่อยหรอ ลงไปทุกๆ ที เพราะคนเล่นมันก็มีจำนวนจำกัด เกมก็ต้องลงทุนสูง ไม่เหมือนเกมมือถือที่ลงทุนนิดเดียวพัฒนากันแป๊ปเดียว หาเงินได้น้ำได้เนื้อกว่าเห็นๆ ถึงอย่างนั้น PS4 กลับเปิดตัวได้อย่างน่าประทับใจถึงขนาดที่ว่าในอเมริกาซึ่งวางขายเป็นที่แรกในโลกตั้งแต่เดือน พย นั้น ของหมดตั้งแต่เปิดให้ Pre-Order ได้เพียงไม่กี่วัน ผมเป็นหนึ่งในคนที่คิดจะซื้อเครื่องอเมริกาในตอนแรกเพราะมันถูกกว่าที่ไทยมาก (ราว $399 หรือประมาณ 13,000 บาท) แต่ก็นิ่งนอนใจด้วยความที่ไม่คิดจริงๆว่าพอถึงวันวางจำหน่ายจริงแล้วของมันก็จะยังหมด ไม่มีให้สั่งอยู่ดี (ณ ปัจจุบัน Amazon US ก็ยังไม่ของให้สั่ง .. มีแต่พวกซื้อแล้วมาขายต่อ ฟันกำไรกันเลือดกระฉูด)

สุดท้ายก็มาได้จาก Nadz เพราะเคยไปลงชื่อจองไว้เมื่อนานมาแล้ว (นานจนลืมอ่ะ) แล้วพอถึงวันใกล้ๆ ทางร้านก็โทรมาบอกว่าได้ของ lot แรกนะ ได้ลด 300 เพราะจองไว้ ของเข้าวันนี้ๆ ยังงี้ ยังงั้น พอถึงวันจริงก็ได้ตามนั้นทุกอย่าง ไม่มีปัญหาอะไรเลย ถือว่าบริการได้ประทับใจในระดับหนึ่งเลยครับ (แต่ก็มีคนเจอเรื่องแย่ๆกับ Nadz บ้างเหมือนกันนะ แต่ผมโชคดีมั้ง)

เข้าเรื่องดีกว่า คราวนี้ตั้งใจจะ review แบบ bullet แทนที่จะเป็นการพร่ำพรรณนาแบบครั้งรีวิว Galaxy S3 เพราะว่ามันใช้เวลามากไป เอาเวลาไปเล่นเกมต่อดีกว่า ฮา

The System

ps4-hrdware-large19

  • ตัวเครื่องสวยดี แต่หนักอิ๊บอ๋าย (แต่ก็เล็ก และเบากว่า Xbox One)
  • ความยาวพอๆกะ PS3 แต่ความกว้างมากกว่าหน่อย
  • ส่วนที่เงาๆ นั้นเป็นรอยง่าย มากกกกกกกกกกกกกกกกกก ทำใจไว้เลยps4menu2copynxua8
  • เมนูหลักบน PS4 มีชื่อว่า Playstation Dynamic Menu (PDM) (อ้างอิง)
  • เร็ว และ ลื่น ในระดับ สุดยอด
  • Concept คล้ายๆ OS ของ Vita และ Smartphone ปัจจุบัน จะมองเกมทุกเกมที่เราเคยเล่น เคยโหลด ว่าเป็นแอพๆ นึงในเครื่อง
  • เวลาสลับเข้า-ออก เกมกับPDM ด้วยปุ่ม PS ครั้งแรกจะงงพอสมควร เพราะถ้าเป็นสมัย PS3 XMB จะ overlay อยู่บนภาพของเกม จะกลับไปเกมก็แค่กดอีกทีนึง แต่ของ PS4 จะเด้งออกมาหน้าเมนูPDMเลย เหมือนกดปุ่ม Home บน smartphone ซึ่งที่บอกว่างงคือ งงว่า ตูจะกลับเข้าเกมยังไงฟระ
  • คำตอบก็คือ เลือกไปที่กรอบของเกมที่เราจะเล่น แล้วกด Start เหมือนกับตอนแรกที่เปิดเกมขึ้นมานั่นแหละ (ถ้ามันเปลี่ยนจากคำว่า Start เป็น Resume ก็จะไม่งงแล้ว)
  • การสลับเข้า-ออก ระหว่างเกมกับเมนูนั้นไวมาก ไม่มีหน่วงแม้แต่วินาทีเดียว
  • OS ดีมาก ซึ่งเอาจริงๆก็ดีมาตั้งแต่สมัย PS Vita แล้ว
  • สมัย PS3 การเปิด XMB ระหว่างเกมจะทำอะไรได้แค่บางอย่างเท่านั้น หลายๆอย่างจะทำไม่ได้ (เช่น เปิด PS Store) แต่ PS4 ไม่มีข้อจำกัดนี้แล้ว เพราะแรมมีเหลือเฟือ
  • ข้อเสียนึงก็คือตัว PS Store นั้นไม่ถูกมองว่าเป็น Application นึง ดังนั้นถ้าเป็นบั๊ก (เจอมาแล้ว) จะไม่สามารถ force close แล้ว re-open มันได้ ต้อง รอมันจัดการตัวเอง หรือ restart เครื่องสถานเดียว (ผมลองปล่อยมันทิ้งไว้ แล้วไปเล่นเกม สัก 2-3 ชม มากดเปิดใหม่ มันก็หายเหมือนกัน)
  • การเชื่อมต่อกับ Social ทำได้ทั้ง Facebook , Twitter แต่ไม่ยักกะมี youtube หรือว่าหาไม่เจอเองก็ไม่รู้
  • การ Share Screenshot, Video ทำได้ง่ายโคตรๆ แค่กดปุ่ม Option บน Controller แค่นั้นพอ
  • ถ้าเลือกจะ share Video จะมี list ของ video ที่มันอัดไว้ให้เป็นช่วงๆ แล้วเราก็ไปเลือกช่วงเวลาย่อยๆ ที่เราจะแชร์เอง
  • ps4_video_editเร็ว ลื่น และง่ายมากๆ ลองแล้วจะติดใจ
  • การตัดต่อ Video เพื่อ share จะต้อง Suspend เกมที่เราเล่นอยู่ก่อน (ใช้เวลา suspend ราวๆ 2-3 วินาที) แล้วค่อย encode video ซึ่งหลังจาก encode เสร็จก็กลับไปเล่นเกมต่อได้ทันที โดยไม่ต้องเสียเวลาโหลดด้วยซ้ำ
  • Facebook จะต้องโดนถล่มด้วย Video Gameplay บน PS4 แน่นอน
  • สามารถ Stream การเล่นสดๆให้ชาวบ้านดูได้ผ่าน twitch ด้วย อันนี้ยังไม่ได้ลอง เพราะไม่คิดว่าเนทบ้านเรามันจะดีพอที่จะเวิร์ค..

Controller

ps4-controller-720

  • ชื่อแบบไม่ต้องคิดมากว่า Dualshock 4 ต่อเนื่องมาจากรุ่นพี่อย่าง Dualshock 3 บน PS3
  • ใช้งานกับ PS3 ได้ แต่แค่ “บางเกม” เท่านั้น
  • ใช้งานกับ PC ได้เลย น่าจะเป็นผลดีอีกอย่างจากการเปลี่ยนสถาปัตยกรรมของ PS4 มาเป็น x86-64
  • มีแบตในตัวเหมือนเดิม แต่เปลี่ยนสายชาร์จจาก Mini USB มาเป็น Micro USB ตามยุคสมัย (สายเดียวกับสายต่อ PC ของมือถือ Android นั่นแหละ)
  • รูปทรงและน้ำหนักเปลี่ยนไป จับถนัดกว่า Dualshock 3 เยอะมาก
  • วัสดุดีขึ้นชัดเจน ให้ความรู้สึก Premium พอๆกับ Xbox360 Controller
  • Analog เปลี่ยนทั้งวัสดุ ทั้งรูปทรง .. จากเดิม กลมๆ มนๆ ตอนนี้เป็น กลมๆ แบนๆ มีขอบ ทำให้นิ้วโป้งไม่หลุดง่ายๆ แบบ Dualsock 3 อีกแล้ว
  • ข้อเสียคือ มันทำให้เจ็บนิ้วกว่า Dualshock 3 เพราะวัสดุใหม่(ยาง)มันฝืดมากๆ
  • โดยรวมไม่แพ้ Xbox360 Controller แต่ก็คิดว่าไม่น่าจะดีกว่า Xbox One Controller เพราะไม่เคยลองจับตัวหลัง
  • ปุ่ม Select Start กลายเป็นอดีตไปแล้ว ไม่ต้องหา เพราะมันไม่มี
  • Start นั้นกลายมาเป็นปุ่ม Option .. แต่หน้าที่ก็คล้ายๆเดิม แนวคิดเดียวกับปุ่ม Menu บน Android
  • Select หายไป แต่มีคนสนใจด้วยหรอ??
  • ปุ่ม Share เพิ่มเข้ามา เอาไว้ Share Screenshot , Video หรือ Streaming
  • การที่ปุ่ม Option ย้ายไปอยู่ข้างบน ทำให้ต้องปรับตัวเหมือนกัน เพราะใช้บ่อยในการ Pause เกม (หน้าที่ปุ่ม Start เดิม)
  • มี Microphone ที่จอย  เล่นแล้วรู้สึก เหยดดด มากๆ ให้ความรู้สึกแทนอุปกรณ์สื่อสารในเกมจริงๆ
  • ขึ้นอยู่กับแต่ละเกมว่าจะให้เสียงอะไรออกที่ทีวี อะไรออกที่จอย อย่าง FIFA 14 จะเป็น Chat เท่านั้น ส่วน Resogun จะเป็นเสียง Narrator ในเกม
  • Touch pad มาอยู่ตรงกลางจอย ยังไม่ได้ลองใช้ บอกอะไรไม่ได้

Games

  • FIFA14 สุดยอด
    • อย่าไปเชื่อใครที่บอกว่าต่างจาก PS3 นิดเดียว
    • แม่งคนละเกมกันชัดๆ
    • เกมเพลย์เปลี่ยนนิดหน่อย แต่ก็รู้สึกได้
    • การเปลี่ยน Controller ก็ทำให้ต้องปรับตัวพอสมควร แต่ดีขึ้น
    • ภาพสวยขึ้น เฟรมเรตดีขึ้น ลื่นไหลมาก
    • มีอะไรใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาพอสมควร เช่น ภาพมุมกว้างของสนาม , พิธีรับมอบถ้วย
    • เล่นแล้วจะไม่อยากกลับไปเล่นภาค PS3 / Xbox360 / PC อีกเลย
    • มีบั๊กนิดหน่อย โกล์บางทีมันเอ๋อๆ นึกว่ามันรับได้ ดันทำลูกหลุดมือ คอมฉกไปยิงง่ายๆซะงั้น รอ patch แก้ต่อไป
    • Com แม่งยังเก่งเอี้ยๆ เหมือนเดิม (World Class เป็นต้นไป)
  • Assasins Creed IV ทนเล่นได้ไม่นาน เวียนหัว จะอ้วก – -”
    • ภาพสวย แต่ก็ไม่ได้น่าตื่นเต้นอะไรเท่าไร ดู Engine มันยังเก่าๆ ไปหน่อย
    • ถ้าไม่นับว่าเวียนหัว เกมก็ใช้ได้ละนะ คนที่ชอบภาคเก่าๆ คงจะชอบ (ปกติผมไม่เล่น Series นี้ หรือเกมแนวนี้)
  • Resogun มันส์มาก เชื่อแล้วว่าเป็นเกมที่ดีที่สุดบน PS4 ตอนนี้ (ขอไม่นับ FIFA)
    • เป็นเกมแรกที่เล่นจบบน PS4 แบบว่ามันส์มาก กดยาวรวดเดียวจบเลย
  • Contrast ติสท์ดี เล่นได้เพลินๆ เป็นเกม Puzzle ที่แปลกใหม่
  • สองเกมหลังแจกฟรีสำหรับ PS Plus member
  • มีโปรเฉพาะ PS4 ถ้าสมัคร Plus ผ่าน PS4 จะได้เวลาเพิ่ม (12เดือน ฟรี 3 เดือน)
  • เล่นออนไลน์ไม่ได้ ถ้าไม่มี Plus ไม่เหมือน PS3
  • แค่มี Plus ID เดียวในเครื่องก็พอ แล้วทุก ID ในเครื่องจะออนไลน์ได้หมดเลย

Remote Play

945429_784619598221432_2000742486_n

  • Setup ง่ายมาก ทำตามที่หน้าจอบอกอย่างเดียว
  • Vita ต้องอัพเป็น Fw ล่าสุดก่อนนะ (เลขอะไรจำไม่ได้ ขี้เกียจดู) แล้วจะมี App PS4 Link
  • หลักการ Thin Client ชัดๆ
  • Vita มีปุ่มน้อยกว่า Dualshock 4 แต่ก็ทดแทน LR2, LR3 ด้วย Touch หลัง1521412_784622104887848_1683037395_n
  • บางเกม เช่น Assassins Creed IV จะทำมารองรับ Remote Play เต็มตัว จึงอาจจะมีการปรับการ Control เพื่อให้เหมาะกับ Touch Screen ของ Vita ด้วย1525247_784623451554380_1440203327_n
  • อะไรที่ทำบน PS4 ได้ ทำบน Vita ได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งการแชร์ Screenshot , Video, Streaming หรือสั่งปิดเครื่อง
  • อยู่ไกลจากเครื่องมากไม่ได้ หลุด กระตุก
  • แม้แต่อยู่ในห้องเดียวกะเครื่อง บางทีก็ยังกระตุก แบบไม่เข้าใจ คิดว่าน่าจะถูกแก้ใน Fw ถัดๆไป
  • เพราะมันกระตุก เลยไม่อยากให้จริงจังอะไรกะมันมาก อาจเสียอารมณ์ได้
  • มีประโยชน์เวลาจอยแบตหมด ใช้ vita แทนจอยได้ ฮา
  • โดยสรุป ถ้าแก้กระตุกได้ ก็สุดยอด พ่อทุกสถาบัน อมขี้ไปพ่นหน้า Wii U ได้เลย

Final Verdict

  • คำถามที่เจอบ่อยมากคือ ซื้อตอนนี้เลยดีไหม
  • คำตอบคือ ถ้ามีเกมที่อยากเล่นในตอนนี้ ซื้อเลย ไม่มีเสียใจแน่นอน
  • ถ้าเล่น FIFA เป็นหลักในชีวิต ซื้อเถอะครับ ความแตกต่างมันมากพอที่จะไม่ควรเสียเวลาเล่นภาค PS3 ต่อแม้แต่วันเดียว
  • ราคา 17,500 เท่ากันทุกร้าน เข้าศูนย์ไทยได้ คิดว่าราคาคงไม่ลงใน 1-2 เดือนนี้แน่ๆ
  • ถ้าหาเครื่อง US, HK ได้จะถูกกว่านี้ แต่เข้าศูนย์ไทยไม่ได้นะ
  • ถ้าอยากได้ แต่ไม่อยากเล่นสักเกมที่ออกมาตอนนี้ .. ก็ยังไม่ต้องซื้อครับ รอยาวๆเลย เครื่องดีแค่ไหน ไม่มีเกมเล่นก็เท่านั้น
  • เกมน่าจะออกไวกว่าสมัย PS3 เพราะ x86-64 มันเขียนโปรแกรมง่ายกว่า Cell เยอะ
  • อย่าซื้อตามกระแส เสียดายตัง ฮา

ขอบคุณที่อ่านครับ 🙂

สิ่งเล็กๆที่เรียกว่า… “หนัง(ไทย)”

A9608050-172

แรงบันดาลใจในการเขียน blog นี้เกิดขึ้นตั้งแต่เดินออกจากโรง หลังจาก “สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารัก” จบลง

ผมเป็นคนที่ไม่ได้เข้าโรงหนังบ่อยนัก ยิ่งหลังจากช่วงที่ทำงานมาแล้วนี่ก็น้อยลงเยอะ เรียกว่าในช่วง 2 ปีหลังสุดนี้ น่าจะยังไม่ถึง 10 ครั้งเสียด้วยซ้ำ

ผมเป็นคนชอบดูหนังแนว Feel good ซึ่งแนวนี้ก็แน่นอนว่า GTH เข้าวินอย่างไม่ต้องสงสัย.. แต่ก็ไม่ถึงกับเป็นแฟนบอยของค่ายนี้ เพราะบางเรื่องผมก็ไม่ดูแม้มีแผ่นออกมาให้ดูแล้ว

0415แฟนฉัน

ผมประทับใจกับ แฟนฉัน และหนังเรื่องนี้เป็นหนังไทยเรื่องที่สองต่อจาก สุริโยไท ที่ผมดูมากกว่า 2 รอบ

1176659862

ผมชอบ เพื่อนสนิท แต่มันก็ไม่ได้โดนอะไรมากนัก ดากานดา ไม่ใช่ผู้หญิงในฝันสำหรับผม เรื่องนี้ผมประทับใจ โอปอล มากกว่าซะด้วยซ้ำ

 

 blog_head2

ผมคลั่งใคล้ Seasons Change และนี่คือหนังที่ผมดูซ้ำมากที่สุดในชีวิต 8 รอบ.. (หรือ 9 นี่แหละ ไม่แน่ใจ) รวมถึงเป็นเรื่องเดียวในชีวิตที่ซื้อแผ่น Limited Edition ไว้ครอบครองimages

ผมชอบ สายลับจับบ้านเล็ก นี่เป็นอีกครั้งที่ GTH แสดงจุดยืน Feel good ได้ดีมากๆ แต่มานั่งคิดดูแล้วก็ไม่น่าเชื่อเหมือนกัน ว่าผมไม่เคยดูซ้ำแม้แต่รอบเดียว (แต่คิดถึงแล้วก็อยากดูนะ)

ผม ไม่เคยดู ปิดเทอมใหญ่ฯ ส่วน Final Score นั้นไม่ตอบโจทย์สำหรับผม สิ่งดีๆที่ได้จากเรื่องนี้สำหรับผมคือ “คิดถึงโรงเรียน” หนังเรื่องนี้สอบตกเรื่องการพาผมกลับไปสู่ชีวิตช่วงเอนทรานซ์อย่างสิ้นเชิง และหลายๆอย่างสำหรับผม มันไม่ “สด” อย่างที่หนังพยายามโปรโมท

c1247828776mv2H ผม ผิดหวังอย่างร้ายแรง กับ หนีตามกาลิเลโอ.. ที่ผมหวังไว้เยอะมาก ตั้งแต่เห็นชื่อผู้กำกับ (นิธิวัฒน์ ธราธร – ผู้กำกับ Seasons Change) เรื่องนี้ผมรู้สึกว่า ตัวหนังมัน “หลงทาง” ไปหน่อย.. จะสุข ก็สุขไม่สุด ดราม่ามันเข้ามาเยอะและหนักเกินไป ตั้งแต่กลางเรื่องถึงปลายเรื่อง ต้นเรื่องก็ใช่ว่าจะไม่ดราม่านะ.. มันเลยเป็นส่วนผสมที่ ไม่ลงตัว เอาซะเลย สำหรับหนังที่ควรจะ Feel good เรื่องนี้

รถไฟฟ้า มาหานะเธอ เป็นเรื่องที่ดี น่ารักตามแบบฉบับ GTH อีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่ช่วงท้ายเรื่องมันค่อนข้างจะขัดใจ ไปซักหน่อย

นอกสาย GTH แล้วผมยังชอบหนังไทย แนว comedy อีกหลายเรื่อง หนังของ หม่ำ จ๊กม๊ก ที่มักจะถูกตีค่าต่ำจากนักวิจารณ์ (แต่ทำเงินสูง) ผมก็ชอบนะ หนังหม่ำมัน “ไม่ดราม่า”ดี ดูแล้วสบายหัว

หนังอย่าง มะ..หมา 4 ขาครับ เป็นอีกเรื่องที่ประทับใจมาก ถึงตัวหนังจะไม่ได้ดีเลิศเลอ แต่ก็เป็นหนังที่ ”ดูแล้วมีความสุข”(เขียนถึงจุดนี้ ผมรู้สึกว่าผมเป็นคนชอบดูหนังไทยมากกว่าหนังต่างประเทศอีกแฮะ..)

87712-attachment First Love สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารัก

สำหรับในช่วงนี้ กระแสของหนังไทยนั้นกลับมาแรงอีกครั้งโดยมีตัวชูโรงคือ กวน มึน โฮ ของ GTH เจ้าพ่อ Feel good เจ้าเก่า กับ สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก หนัง romantic comedy แบบแท้ๆเรื่องแรกรึเปล่าก็ไม่รู้ของ WorkPoint 

บอกตรงๆว่า ตอนแรกผมอยากจะไปดู กวน มึน โฮ และแทบไม่ได้ให้ความสนใจกับ สิ่งเล็กๆ เลย จนกระทั่งคนรอบตัว ทั้งคุณเพื่อน @phanitaw คุณพี่ @artkrub และคุณแฟน.. (@.. เอ้ย ไม่เล่น twitter) มาเป่าหูให้ฟังว่า เรื่องนี้แหละ เทพ เมพขิงๆ กว่า กวน มึน โฮ หลายเท่านัก

สุดท้าย ก็เลยมาจบที่ สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก ณ พารากอน ซีนิเพลกซ์ จนได้ (ที่ซึ่งพนักงานขายตั๋ว และป๊อปคอร์นหน้าหงิกเป็นตูด.. พี่คร้าบ ผมไปปล้นเงินพ่อพี่มาซื้อตั๋ว/ป๊อปคอร์นหรอค้าบ – -“)

Little-Thing-Called-Love1

เข้าโรงไปไม่นาน ก็พบว่าหนังดึงดูดตัวผมเข้าไปมีอารมณ์ร่วมได้เร็วมาก (ปกติผมจะเป็นพวกสมาธิสั้น หนังอย่าง avatar ยังต้องใช้เวลาราวๆ 15-20 นาทีกว่าผมจะมีอารมณ์ร่วมไปกับมัน) หนังพยายามสะท้อน “รักแรก” ในวัยเรียนออกมาในมุมของฝ่ายหญิง ผู้ชายอย่างผมจึงไม่ได้ถึงกับ “โดน” มากนัก อีกทั้งประสบการณ์ในการอยู่ร่วมโรงเรียนเดี่ยวกับคนที่แอบชอบนั้นก็ไม่มีเอาซะเลย (ผมเรียน รร ชายล้วน สมัย มัธยม) แต่หลายๆสิ่งในหนัง ก็ต้องยอมรับว่า คนเขียนบท “เข้าถึง” รักใสๆแบบ puppy love ช่วงมัธยมต้น อย่างแท้จริง การแอบรัก การพยายามทำให้คนที่เราชอบประทับใจ การแอบชอบคนที่เค้าชอบคนอื่นอยู่ ความเจ็บปวดของคนที่เป็นได้เพียง“สะพาน” มิตรภาพที่่ต้องเลือก ระหว่าง“เพื่อน”และ“คนที่รัก” ซึ่งมักจะจบลงด้วยปัญหากับอีกฝ่ายหนึ่งซึ่งเราไม่ได้เลือก ฯลฯ

อีกจุดหนึ่งที่ต้องชมของเรื่องนี้คือการเลือกใช้เพลงประกอบได้เข้ากับบรรยากาศ และถูกที่ถูกเวลา จุดเด่นที่เห็นได้ชัดที่สุดก็คือช่วงเวลาของเพลง “สักวันหนึ่ง” และเพลง “เพราะใจ” นั่นเอง 

 

A9608050-4อีกเรื่องที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ คือ นางเอก ซึ่งถึงกับทำให้กระแสของ มาริโอ นั้นถูกกลืนไปมากทีเดียว เรื่องความน่ารักคงไม่ต้องพูดกัน เพราะ “น่ารักโคตรๆ” อยู่แล้ว แต่ฝีไม้ลายมือของ “น้ำ” หรือ “ใบเฟิร์น” นั้นต้องบอกว่า สุดยอด.. ไม่น่าเชื่อมากๆ ว่านี่จะเป็นนางเอกหน้าใหม่ ฉากร้องไห้ที่ต้องใช้อารมณ์ และเป็นฉากที่เป็นจุดพีคของเรื่อง “ใบเฟิร์น” ทำได้อย่างเยี่ยมยอดและไร้ที่ติ มันเป็นอารมณ์ของคนอกหักที่“ใช่” จริงๆ

“ใบเฟิร์น” เข้าถึงอารมณ์ของคนแอบรัก(ที่ผิดหวัง)ได้อย่างยอดเยี่ยม อย่างที่ดาราอาชีพหลายๆคนยังทำไม่ได้ขนาดนี้ ส่วนฉากอื่นๆนั้นก็ทำได้ดี ความสดใสของวัยรุ่นตอนต้นเรื่อยมาจนถึงกลาง ทำได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่มีความรู้สึกขัด หรือความรู้สึกเฟคเลยแม้แต่น้อย

 

ถ้าให้เปรียบเทียบกับหนังในแนวเดียวกันอย่าง Seasons Change ซึ่งเป็นเรื่องที่ “ขึ้นหิ้ง” ไปแล้วสำหรับผม ก็ต้องบอกว่า อยู่ในระดับที่ทัดเทียมกัน ตัวเอกอย่าง“น้ำ” ก็สั่นคลอนบัลลังก์ของ “ดุจดาว” (ที่ถึงแม้ว่าฝีมือในด้านการแสดงนั้น ด้อยกว่า “อ้อม” อย่างชัดเจน แต่ก็นางในฝันอ่ะ.. ใครจะทำไม :D) ได้อย่างน่ากลัว

images (1)

Seasons Change มีบรรยากาศของ อาดาจิ มิซึรุ อยู่อย่างมากมาย ในขณะที่ สิ่งเล็กๆ นั้นไม่ได้มีมากเท่า (แต่ก็ยังพบเห็นได้) จุดแข็งของอาดาจิก็คือ เรื่องของจังหวะและโอกาส การเล่าเรื่องด้วยภาพ การเว้นระยะของความรู้สึกให้คนดูคิดต่อกันไปเอง (ฉากอ้อมซ้อนรถจักรยานของป้อม และ ฉากที่อ้อมให้ปากกาไฮไลท์กับป้อมใน Seasons Change) ในขณะที่ สิ่งเล็กๆก็มีซีนที่ให้ความรู้สึกคล้ายๆกันนี้ในตอน นิทานปลาหมึก นอกจากนี้ในตอนใกล้จบ บนโต๊ะของ”น้ำ” นั้นก็มีหนังสือของ อาดาจิ วางอยู่ด้วย แต่เห็นไม่ชัดว่าเรื่องอะไร (อันนี้คุณแฟนเป็นคนสังเกตุเห็น)

 

60_ บทบาทของตัวประกอบก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกันในงานของอาดาจิ อาจารย์จิทาโร่และอาจารย์โรซี่ ของ Seasons Change กับ ครูอิน ของ สิ่งเล็กๆ นั้นแทบจะถอดพิมพ์กันมา คือเป็นคนsupport ตัวเอก และเป็นตัวเรียกเสียงหัวเราะ ซึ่งครูอินนั้นมีสไตล์ที่ต่างออกไปจากสองคนแรก ส่วนหนึ่งเพราะเลือกใช้ ตุ๊กกี้ เป็นคนแสดง ซึ่งโดยส่วนตัวผมชอบ “ตลกน่ารัก” แบบ อ.จิทาโร่และโรซี่ มากกว่า “ตลกโปกฮา” แบบ ครูอิน (และตัวประกอบของ อาดาจิ แท้ๆนั้นก็จะเป็นแบบแรกมากกว่า) อย่างไรก็ดี ผมว่าตุ๊กกี้ก็ทำได้เยี่ยมนะ สำหรับบทบาทของเธอ

ถึงแม้หนังทั้งสองเรื่องจะให้ความประทับใจพอๆกัน แต่ผมยังคงรู้สึกว่า Seasons Change นั้นทำให้คนดูโหยหาอยากดูซ้ำ ได้มากกว่า สิ่งเล็กๆ ซึ่งอาจจะเป็นเพราะพล็อตของ Seasons Change นั้นเนียนกว่าสิ่งเล็กๆอยู่พอสมควร ส่วนดราม่าของ Seasons Change นั้นละมุนละม่อมกว่า และ Seasons Change นั้นคลายปมของเรื่องได้ดีกว่าเยอะมาก เช่น ปมเรื่องพ่อของน้ำนั้นมันน่าจะมีอะไรมากกว่านี้ และแรงบันดาลใจของน้ำควรจะแบ่งปันไปหาพ่อมากกว่าที่จะมารวมทุกอย่างไว้ที่พี่โชน ผมคิดว่า ถ้าให้น้ำเรียนเก่งขึ้นเพราะอยากเจอพ่อ(อย่างที่หนังพยายามทำไปในทิศทางนั้นมาตลอด) นั้นจะดูดีกว่าที่จะมาบอกตอนจะจบว่าเป็นเพราะอยากให้พี่โชนสนใจเยอะเลย ดูแล้วก็รู้สึกเหมือนกับว่าหนังใช้ผู้กำกับคนละคนและไม่ได้ทำความเข้าใจซึ่งกันและกันมารึเปล่า มันถึงได้ขัดๆความรู้สึกแบบนี้

DSC0481 พูดถึงตอนจบแล้ว ตอนจบของสิ่งเล็กๆนั้นถือได้ว่าเป็น”จุดด้อย” ที่ใหญ่ที่สุดของเรื่องเลยทีเดียว เรียกว่าทำมาดีหมดทุกอย่างแล้วมาตกม้าตายเอาตอนบทสรุปนั่นเอง หนังพยายามที่จะ“จบดี” มากเกินไปจนเลยจุดที่“ควรจะจบ” ซึ่งการจบดีนั้นก็เป็นสิ่งที่ดี(ผมชอบ) แต่ชั้นเชิงในการจบมันควรจะดีกว่านี้หน่อย.. มาจบแบบนี้เหมือนหมดมุขและทำให้มันจบๆไป ทั้งๆที่ซีนนี้ควรจะเป็นซีนที่เติมเต็มความรู้สึกอิ่มให้กับผู้ชม แต่มันกลับกลายเป็นซีนลวกๆ ที่ทำให้เสียความรู้สึกไปซะอย่างนั้น (แอบคิดไปว่าถ้าเป็นอาดาจิ แกจะจบตรงที่ควรจะจบไปแล้วในฉากไดอารี่) อย่างไรก็ตาม หนังยังมาแก้ตัวได้ในซีนท้ายที่สุดจริงๆ การตัดภาพกลับไปมาแบบนั้น ทำให้คนดูลุ้นกันอย่างได้อารมณ์ทีเดียว

โดยสรุปแล้ว ถ้าเอาแค่ความประทับใจ สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก ทำได้ยอดเยี่ยมดีที่สุดในรอบหลายๆปีของหนังไทย (นับจาก Seasons Change สำหรับผม) แต่ถ้าพูดถึงรายละเอียดของตัวหนังจริงๆ แล้วก็คงต้องบอกว่า มันควรจะดีกว่านี้ได้อีก มันเกือบจะสมบูรณ์แบบอยู่แล้ว ซึ่งน่าเสียดายมากๆ ถ้าหนังมีการเก็บรายละเอียดที่ดีกว่านี้สักหน่อย เรื่องนี้น่าจะขึ้นแท่นอันดับหนึ่งในดวงใจของผมและหลายๆคนได้ไม่ยากเลย..

Nexus One : My review #2

สวัสดีครับ.. ได้กลับมาเขียนต่อซะที หลังจากดองนานไปชาตินึง 555

มาเริ่มกันเลยแล้วกันนะครับ

  • Social Networking

แน่นอนว่านี่เป็นส่วนสำคัญที่สุดส่วนหนึ่งของมือถือสมัยนี้อย่างไม่ต้องสงสัย ใครล่ะที่จะยอมซื้อ Smartphone ที่เล่น Twitter/Facebook ไม่ได้ หรือว่าได้แต่ไม่ดี จริงไหมครับ ?

snap20100501_201026 snap20100501_201006 snap20100501_201003

เริ่มกันที่ Facebook ก่อนเลย.. ต้องบอกว่า android นั้นโชคดีที่ผม “ดอง” รีวิวฉบับนี้ไว้ค่อนข้างนานมาก ซึ่งนานพอที่จะทำให้ facebook for android นั้น ออกตัว update ออกมา 1 ตัว โดยการเพิ่ม native inbox เข้ามาให้ และโดนส่วนตัวผมว่ามัน fix bug บางอย่างออกไปด้วย ซึ่งก็ทำให้ facebook for android นั้นดีขึ้น “ในระดับหนึ่ง” แต่เมื่อเทียบโดยรวม นั้นก็ยังถือว่า facebook for android นั้นยัง “ด้อย” กว่า facebook for iphone อยู่อีกหลายช่วงตัว ทั้งการ touch ที่เป็นตอบสนองต่อ “แถว” แทนที่จะตอบสนองต่อ “ตำแหน่ง” แบบที่ควรจะเป็นใน touch phone ทั่วๆไป (ใน 1 แถวของ facebook จะมี action แบบเดียวเท่านั้น – -“ เช่น ใน 1 news feed ก็สามารถกดได้แบบเดียว คือเข้าไปดูเนื้อหานั้นๆ ไม่สามารถแยกกดดู comment หรือ like persons ได้)

แต่ส่วนที่ทำให้ android นั้นโดดเด่นกว่า iphone อย่างเห็นได้ชัดก็คือ widget ครับ ต้องบอกว่า widget ของ facebook for android นั้น “สวย” และมีประโยชน์ดีทีเดียว โดยตัว widget นั้นจะทำการแสดง status update ของเพื่อนๆ เราบนหน้าจอครับ โดยเรียงตามเวลาที่ update สามารถกด back/next เพื่อดูอันก่อนๆหน้าได้

นอกจากนี้ Facebook for Android นั้นยัง integrate ตัวเองเข้ากับ os อีกด้วย เราจึงสามารถที่จะ share รูปภาพ/video ผ่าน facebook ได้จาก Gallery โดยตรงได้เลย (เจ๋งมาก)

snap20100502_180526 snap20100501_201035  snap20100501_201102

สำหรับ Twitter นั้นก็เพิ่งออก Official Twitter for Android ออกมาเมื่อไม่กี่วันนี้เอง (เห็นไหม การดองก็มีผลดีนะ) ซึ่งสำหรับตัว client นั้นคงไม่มีอะไรที่แตกต่างกับตัวก่อนๆหน้าอย่าง Seesmic, Twidroid มากนัก (ด้อยกว่าด้วยซ้ำเนื่องจากยังไม่มี Retweet with Quote) แต่สิ่งที่ “แตกต่าง” กับ client ตัวอื่นๆ นั้นก็คือการ integrate ตัวเองเข้ากับ android os ซึ่งทำให้เราสามารถเลือก share รูปภาพ/video ผ่าน twitter จาก Gallery ได้โดยตรงเลย (เหมือนกับ facebook)

นอกจากนี้ Twitter for Android ก็ยังมี widget แถมมาให้ด้วย ซึ่งดูจาก Widget และตัว Client แล้ว ต้องบอกว่า “เหมือนใช้ codebase เดียวกัน” กับ Facebook for Android เลย

แต่ว่า Twitter for Android นั้น “มี” ในสิ่งที่ facebook ไม่มี นั่นคือ การรองรับการ Touch บนลิงค์ จริงๆ ไม่ใช่การ Touch แบบ “แถว” เหมือนกับ facebook และ twitter ก็ยังทำส่วนของ UI ให้กลมกลืนกับ android os ได้อย่างสวยงามมากๆด้วย (รูปขวาสุด เมนูสำหรับการ Reply/Retweet จะมีลักษณะเหมือนกับเมนูของ Contact application ของ Android)

นอกจากนี้ ทั้ง twitter และ facebook บน android นั้นยังสามารถที่จะ Sync contact กับมือถือเราได้อีกด้วย ซึ่งผมพบว่ามันเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการได้รูป display pic ของเพื่อนๆใน contact list ครบ (แต่ก่อนต้องไปไล่ขอถ่ายเอา ฮาๆ)

Rating : 5/5

 

  • Map / GPS / Navigator

ต่อกันที่สิ่งที่โทรศัพท์รุ่นสูงๆทุกวันนี้ “ต้องมี” นั่นก็คือ GPS และระบบ Navigator ซึ่ง android นั้นใช้บริการของทาง Google Map และ Google Latitude

snap20100403_182232snap20100403_182240snap20100403_182332

functionality ของ Google Map นั้นก็ไม่ได้แตกต่างจากบน PC นัก เพียงแต่ว่ามัน “ปักหมุดไม่ได้” แต่ก็มี app ฟรีบน market ที่ช่วยให้ทำได้อยู่ดี

การค้นหาเส้นทางนั้นก็เหมือนบน PC เช่นกัน เพียงแต่เลือกจุดเริ่มต้นเป็น My Location เพื่อให้ Google Map ใช้ที่อยู่ปัจจุบันของเราจาก GPS ซึ่งมีความแม่นยำ “สูงมากๆ” เมื่อต่อ internet อยู่ ซึ่งก็นับเป็นข้อได้เปลี่ยนของ aGPS นั่นเอง

snap20100403_182308 snap20100403_182346 snap20100501_201242

ใน Google Map for Android นี้เราสามารถที่จะเลือก Layer ในการ display ได้เช่นเดียวกันกับบน PC และมันยังมี Traffic Layer ที่เอาไว้แสดงสภาพการจราจรอีกด้วย!

สำหรับรูปด้านขวาสุดคือ Google Latitude ซึ่งเป็นบริการสำหรับ share location ของเรากับเพื่อนๆ ซึ่งตำแหน่งของเพื่อนที่ share location กับเราอยู่นั้นก็จะปรากฎบน map ของเราเลย (น่ากลัวมากถ้าหากแฟนของคุณใช้ android ด้วย จะทำให้การหนีไปมีกิ๊กเป็นไปอย่างยากลำบาก 555… ทางออกที่ดีคือ ให้คุณเธอใช้อย่างอื่นซะ หรืออย่าให้เธอรู้ถึง feature นี้เด็ดขาด)

สำหรับการ Navigation นั้นยังทำได้ไม่สมบูรณ์เท่าไรนัก เพราะถึงจะมี instruction บอกตามจุดสำคัญๆอยู่ (เช่น “Head West” ในรูปซ้ายสุด) แต่ว่ามันไม่ขึ้นมาโดยอัตโนมัติเมื่อเราเข้าไปใกล้ ดังนั้น อยากรู้ต้องจิ้มดูเอาเอง – -“

snap20100502_180631

นอกจาก Google Map แล้วใน market ยังมี app สำหรับใช้เป็นเข็มทิศดิจิตอล และดูสถานะของ GPS ให้เลือกอยู่หลายเจ้า แน่นอนว่า Map เองก็มีหลายเจ้าเช่นกัน โดยเฉพาะแบบ Offline ที่ไม่ต้องต่อ internet เพื่อใช้งานด้วย (ผมไม่เคยลอง ขอข้ามไปละกัน)

โดยสรุปแล้ว Nexus One เป็น GPS ที่ “ดี” ในระดับหนึ่ง แต่ยังคงไม่สามารถสู้กับ Garmin ได้อย่างแน่นอน ทั้งในเรื่องข้อจำกัดที่ต้องต่อ internet การการนำทางที่ยังไม่ full feature นัก (ในไทยยังไม่รองรับ Street View และ Turn-by-Turn) แต่เท่าที่ใช้งานมา ก็ถือว่าพึ่งพาได้ดีทีเดียวครับ

 

 

Rating : 4/5

 

  • Android Market

จะซื้อมือถือที่ลงโปรแกรมได้ทำไม ถ้ามันไม่มีโปรแกรมให้ลง… จริงไหมครับ ?

 snap20100403_180951snap20100403_181007 snap20100403_181001 

Android Market นั้นก็คงเปรียบเทียบได้กับ App Store ของ iphone นั่นเอง แต่ปริมาณ app นั้นถือว่ายังห่างกันอยู่มาก โดยเฉพาะเกมส์ ซึ่งต้องบอกว่าเกมส์ๆ ดีๆ บน android นั้นมี น้อย มากๆ ดังนั้นถ้าคุณคิดจะซื้อมือถือสักเครื่องมาเล่นเกมส์แล้วละก็.. Go for iPhone ครับ

มาพูดถึงตัว Market ดีกว่า เมื่อเข้ามาหน้าแรกเลยก็จะพบกับ Featured Apps ซึ่่งเป้น list ของ app เด่นๆ ที่มี rating จากผู้ใช้สูงๆ (4 ดาวขึ้นไป) นอกจากนี้ ยังสามารถที่จะเลือก browse app ตาม category ได้ apps/games ซึ่งในนั้นก็จะมี sub-category แยกกันออกไปอีก หรือจะ search จากชื่อ app ตรงๆเลยก็ได้

ปัญหาใหญ่ของมือใหม่ android ก็คือ “กรูควรจะลงอะไรดี” ซึ่งสำหรับผมเองมีอยู่ 2 แบบ คือ ดูไปเรื่อยๆ ตัวไหนดาวเยอะ น่าสนใจ ก็ลองลงดู กับ อยากให้มันทำอะไรได้ ก็ลองเอา keyword ไป search ดู ซึ่งก็ได้ผลลัพธ์ที่ดี “ในระดับหนึ่ง” แต่บางทีการ search นั้นก็ไม่ครอบคลุมมากพอ

อีกปัญหาก็คือ สำหรับคนที่อยู่นอก US นั้นจะไม่สามารถแม้แต่จะ “เห็น” paid app ผ่านหน้า market ได้ (กีดกันกันสุดๆ..) ดังนั้น ไม่ต้องแปลกใจไป ถ้าคุณจะหา app ที่เค้าแนะนำกันบน internet ไม่เจอ..

เมื่อเราเลือกโหลด app app ที่คุณเลือกจะไปโผล่อยู่ใน download list ซึ่งจะแสดง progress ของการ download และหน้านี้ยังทำหน้าที่ notify คุณเมื่อมีการ update ของ app ที่คุณเคยลงไปแล้วอีกด้วย (รูปขวามือสุด)

โดยสรุป Market ของ android นั้น “ดี” แต่ยังไม่สุด และผมตัดคะแนนจากการที่ user แต่ละคน เห็นจำนวน app ไม่เท่ากัน ซึ่งผมรู้สึกว่ามันแย่มากๆ ในแง่ของ software (ซื้อไมได้ ก็ควรจะเห็นบ้าง ไม่งั้นมันงงนะเฟร้ย = =)

Result : 4.5/5

 

  • Settings & Details

snap20100403_181330 snap20100403_181340 snap20100403_181401

snap20100403_181407 snap20100403_181446 snap20100403_181515

เหนื่อยแฮะ…

ตรงนี้ขอใช้รูปเล่าเรื่องแทนละกันนะครับ Settings นั้นแยกเป็นหมวดหมู่ชัดเจนดังรูปซ้ายบน แต่ settings แบบละเอียดนั้นโดยมากมักจะถูกซ่อนไว้ภายใต้ปุ่่มเมนู (virtual button บนตัวเครื่อง) ซึ่งทำให้มือใหม่ (อย่างผม) อาจจะหาไม่เจอ จนกว่าจะมีคนบอก หรือบังเอิญกดดูแล้วเจอเอง (จริงๆ การกดเมนู เมื่อหาอะไรไม่เจอนั้นเป็นสิ่งแรกที่ควรทำสำหรับการใช้ android ครับ เพราะโดยมาก มันมี แต่มันไม่แสดงออก – -“)

สิ่งที่ผมชอบก็คือการแสดงว่า app ตัวไหน กิน battery เท่าไร (รูปกลาง แถวล่าง) ซึ่งทำให้เราจับโจรได้ ถ้าเกิดแบตเราหมดเร็วผิดปกติ (แต่โดยมาก Display ที่แหละตัวดี จอสีสวยสด แต่แด๊กแบตอิ๊บอ๋าย)

ในส่วน Manage Application (รูปขวาบน) นั้นมีไว้สำหรับ Uninstall app ที่เราลงไป และดูรายละเอียดต่างๆ เช่น ใช้ พท ไปเท่าไร หรือว่า เป็น default program สำหรับ action ไหนๆรึเปล่า ซึ่งเราสามารถ clear ค่า default ได้จากตรงนี้ครับ

เนื่องด้วยมันไม่ user friendly สำหรับมือใหม่เท่าไร ผมจึงขอเฉือนคะแนนออกนิดนึงครับ

 

Rating : 4.5/5

 

  • Camera & Video

“แกๆ กล้องกี่ล้านอ่ะ” คงเป็นคำถามยอดนิยมสำหรับการพิจารณามือถือในสมัยนี้ไปซะแล้ว สำหรับ nexus one นั้นมาพร้อมกับกล้อง 5 Megapixel พร้อม autofocus และ LED Flash ครับ

30931_121589557857776_100000201983464_279725_6341810_n

คุณภาพของภาพที่ได้นั้นถือว่า “ดี” เมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีแสงเพียงพอ และ “ห่วย” เมื่อแสงน้อยครับ เนื่องจาก flash มันช่างไร้ประโยชน์สิ้นดี (ผมว่า xenon flash ของ SE K750i นั้นทำงานได้ดีกว่ามาก)

จริงๆแล้วตัว flash นั้นต้องบอกว่า สว่างมาก นะครับ เพียงแต่ nexus one นั้น กว่าที่จะจับภาพ ก็เล่นเอาตอนที่แสดง flash นั้นหรี่ลงไปแล้ว ทำให้ไม่ได้ภาพตอนที่แสงสว่างที่สุด ซึ่งถ้ามี firmware update แก้ออกมาก็น่าจะทำให้คุณภาพของภาพที่มี flash นั้นดีขึ้นอย่างมากทีเดียว

สำหรับ video นั้นต้องบอกว่า “เทพมากๆ” ครับ เนื่องจากสามารถถ่ายวีดีโอ H.264 ในความละเอียดสูงถึง 720×480 px ทีเดียว

เอาหมามาเป็นพระเอกละกันนะ ^-^’’

 

ถึงแม้ video จะดีเพียงใด แต่ความที่แฟลชมันห่วยเกินรับได้นั้นก็ทำให้คะแนนมันเหลือแค่นี้แหละครับ – -“

Rating : 4/5

Conclusion

คงจบแล้วครับสำหรับ review features หลักๆ ของ nexus one ในตอนหน้าจะมาเก็บตกในแบบสบายๆ ไม่เป็นทางการ สำหรับความเจ๋ง และความห่วย ของ nexus one ครับ

โดยสรุปแล้ว nexus one นั้น ไม่ค่อยเหมาะ กับคุณสาวๆ หรือ celeb ต่างๆนัก เพราะว่ามันค่อนข้าง ใช้ยาก พอสมควรในตอนเริ่มแรก (มันทำอะไรได้เยอะ และอิสระเกินไป จนมันยาก เพราะต้องทำทุกอย่างเอง…) แต่ว่าเหมาะมากๆ กับพวกที่บ้าเทคโนโลยี และพร้อมที่จะเรียนรู้มันครับ ไม่ผิดหวังแน่นอน 🙂

สุดท้ายนี้ขอบคุณที่ติดตามครับ 🙂

 

ปล – ผมเพิ่งได้มีโอกาสเล่น Motorola Milestone และ Nokia N900 อย่างถึงพริกถึงขิงมาด้วย เนื่องจากพี่สาว และน้าสาว ผมซื้อมาใช้งาน ถ้ามีโอกาสจะจับมา review ให้นะครับ 🙂

ปล2 – สั้นๆ Nexus One >> Motorola Milestone > Nokia N900 ครับ แต่ Maemo นั้นมี UI นี่น่าตื่นตาตื่นใจกว่า android อยู่พอตัวเลย แต่จำนวน app นั้นสู้ไม่ได้เลยครับ